ด้วยความที่ผมเป็น หมอศัลยกรรมตกแต่ง เมื่อมีคนไข้ต้องการดึงหน้า ผมมักคิดในใจเสมอว่า งานเข้าซะแล้ว เพราะอะไรนั่นเหรอครับ ก็เพราะการผ่าตัดดึงหน้า แล้วทำให้เกิดความพึงพอใจ ทั้งผู้ป่วยและตัวหมอเองเป็นเรื่องยาก สาเหตุมาจาก การผ่าตัดดึงหน้า ไม่สามารถแก้ไขในสิ่งที่คนไข้ต้องการได้จริงๆ นะซิครับ
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมใบหน้าเราถึงได้ แก่ หรือ ดูมีอายุ ซึ่งผมจะไล่เป็น ข้อๆจากหน้าผากถึงคาง โดยจะแบ่งเป็น เรื่องของ เนื้อเยื่อที่หย่อนยาน กับ การเกิดรอยย่น
เมื่อเราดูจากรูปด้านบนทำให้เราทราบแล้วว่า ทำไมเราถึงดูแก่ ต่อไปเราก็มาหาวิธีการแก้ไขกันเถอะ คิดง่ายๆว่า ถ้าเราต้องการแก้ไขทั้งหมด 8 ข้อดังกล่าว หมอบอกได้คำเดียวว่า จะแก้ไขด้วยการผ่าตัดอย่างเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้
การผ่าตัดดึงหน้านั้น เหมาะสำหรับ คนที่มีหน้าผากย่น หัวคิ้วย่น หนังตาตก ถุงใต้ตา และ เนื้อเยื่อข้างแก้มหย่อนมากๆเท่านั้นเอง นอกนั้นจะถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย และที่สำคัญ การผ่าตัดดึงหน้านั้นเหมาะกับคนไข้ที่ อายุ 40 ปลายๆ จนถึง 50 ปลายๆเท่านั้นเอง เพราะ ถ้าอายุมากกว่านี้ การทำการผ่าตัดไปอาจไม่ช่วยอะไรได้มาก เนื่องจากเนื้อเยื่อส่วนใหญ่เริ่ม ผ่อลีบแล้ว ทำการผ่าตัดไปอาจ เหมือนเดิม หรือดีขึ้นเล็กน้อย
แล้วถ้าอายุไม่ถึง เช่น วัย 35- 45 ละ ควรทำยังไง? ในเมื่อเริ่มสังเกตว่า เราแก่ขึ้น แต่ในเมื่อผ่าตัดก็ไม่คุ้ม แถมบางครั้ง หน้าตาเราก้ยังไม่ได้ย่นเหมือน 8 ข้อดังกล่าวข้างต้นด้วย
ก่อนขึ้นหมอก็ขอออกตัวก่อนว่า หมอเองก็มีอายุอยู่ในช่วงดังกล่าว แต่ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยคิดจะทำหน้า ไม่เคยคิดว่าอยากจะทำอะไรกับหน้าตัวเองเลย แม้ว่าตัวเองเป็นหมอผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งก็ตาม คิดอยู่เสมอว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็น เรื่องธรรมชาติ แถมอีกหน่อยคือ เมื่อคนเราอยู่ใต้แรงดึงดูดของโลก ย่อมเหี่ยวย่นเป็นธรรมดา
จนเมื่อไม่นานมานี้ ทาง BB Clinic ได้นำเครื่องมือใหม่มา ชื่อ Regen Tripolar ( จริงๆ ก็คือ เครื่อง RF – Radio frequency generation ที่ 3 ) ซึ่งหมอเองก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเท่าไร เพราะคิดในใจเสมอว่า เครื่องมือหลอกเด็กจะมาสู้ มีดหมอได้ยังงัย ?? ถามเด็กในร้านว่าคนไข้ทำแล้วเป็นงัย เด็กๆก็บอกว่า คนไข้ชอบ ไม่เจ็บ แต่ร้อนนิดๆ แตได้ผลดี หมอก็บอกว่า หรอ? จนบ่อยเข้า คนไข้ก็มาทำกันมากขึ้น หมอก็เลยคิดในใจว่า “ น่าสนดีนะ เพราะไม่เจ็บด้วย แต่ว่าเราก็หน้าตาไม่มีรอยย่นเลยนะ ไม่เป็นไรทำเล่นๆก็ได้ “ ผลปรากฏว่า WOW! ไม่แน่ใจว่า รู้สึกไปเองหรือเปล่า รู้สึกว่า หน้าตาเราดูดีขึ้นนะ ไม่ใช่ว่าดูตึงแต่ ว่าดูดีขึ้น แม้ว่าเพิ่งทำไปครั้งเดียวเอง
ผมก็เลยกลับมานั้งคิดว่า ทำไม? ก็เลยนึกถึง สมบัติ เมธนี พระเอกตลอดกาลว่า เค้าเข้า Fitness เล่นกล้ามตลอด ทำให้ถึงแม้อายุ 70 แล้วแต่ก็ยังหุ่นดีดูฟิต แข็งแรงกว่าคนทั่วไปในวัยเดียวกัน ซึ่งบนใบหน้าเราเองก็มีกล้ามเนื้อเหมือนร่างกาย มีไว้สำหรับการแสดงสีหน้า ( Facial Expression ) ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 14 คู่ 34 มัด ถ้าใบหน้าได้ออกกำลังกายซะบ้าง เหมือนกล้ามแขนของพระเอกตลอดกาลของเรา ก็สามารถทำให้ใบหน้าดูกระชับได้เหมือนกัน ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้นึกถึง การออกกำลังกายใบหน้าด้วยการหัวเราะ หรือ การทำโยคะใบหน้า ที่เป็นเคล็ดไม่ลับของการทำให้หน้าเต่งตึงอ่อนกว่าวัย และดูแจ่มใสอยู่เสมอ
เมื่อเอาเหตุผล และทฤษฎีทางกายภาพเบื้องต้นมาบวกลบรวมกันแบบวิทยาศาสตร์ ก็เลยได้คำตอบว่า การยกกระชับหน้าด้วย เครื่องมือทางการแพทย์ เช่นการส่งคลื่นเสียง ( RF และ Utrasonic ) ไปยังกล้ามเนื้อใบหน้า ก็สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าได้ออกกำลังได้เช่นเดียวกัน ซึ่งผลที่ได้ ก็คงเหมือนคนออกกำลังกายบ่อยๆแล้วมีกล้ามเนื้อที่ดูฟิตกระชับ ดูแข็งแร็งทั้งจากภายในภายนอกเหมือนกัน
ชลลดา สาดคล้า
written on 2 апреля 2011 -ดีน่าสนใจทำมาก ๆ ราคาทำเท่าไหร่ค่ะ
admin
written on 11 апреля 2011 -ค่าบริการทำ RF ครั้งละ 3,000 บาทค่ะ แต่ก็มีราคาเหมาเป็นคอร์สให้ด้วย อยากแนะนำว่าควรให้เจ้าหน้าที่ดูสภาพผิว และใบหน้าก่อนเพื่อจะได้วิเคราะห์ความเหมาะสมของจำนวนครั้งของการเข้ารับบริการได้ถูกต้องค่ะ ขอบคุณสำหรับการสอบถามนะคะ
Vallada charungpattananon
written on 16 марта 2013 -แบบเป็นคอร์สราคาเท่าไร อยู่ได้นานแค่ไหน