เคยไหม? ที่นั่งแต่งหน้าเป็นชั่วโมงแต่ก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างบนใบหน้าที่มันขัดๆ ทำยังไงแต่งเท่าไหร่ก็ไม่เข้ากับหน้า
เคยไหม? อยากแต่งตาแปลกๆ สีสวยๆ แต่ก็เท่านั้น เขียนไปมันก็ไม่ได้ดูดีขึ้นมาเท่าไหร่ กรีดตาให้ตายหนังตามันก็ทับหมดอยู่ดีนั่นแหละ
เคยไหม? ก่อนออกจากบ้านต้องมานั่งพะวงมัวแต่ทากาวตาสองชั้น พอจะออกจากประตูปุ๊บ! อ้าว!! ตามันกลับมาชั้นเดียวอีกแล้ว กลับไปนั่งทากาวใหม่ ไม่ต้องไปมหาลัยกันแล้ว พอทาเสร็จผ่านไปสักพักเพื่อนก็ทักว่าทำไมตาเธอมันดูเลอะๆ ล่ะ มันเป็นคราบๆ ที่เปลือกตา ตลกดีจัง
ใช่ ดิฉันอาจดูตลกในสายตาเพื่อนๆ ที่เอาแต่มานั่งทำตาสองชั้นด้วยกาวกิ๊กก๊อกที่อยู่ได้แค่สามสี่ชั่วโมงก็ต้องมานั่งทำใหม่ ดิฉันอาจดูไร้สาระในสายตาพวกเขา ก็แหงล่ะ พวกเขาไม่ได้เกิดมามีตาตี่เหมือนดิฉันนี่นา ดิฉันไม่เคยมองว่าตาชั้นเดียวของดิฉันเป็นปมด้อย ดิฉันไม่เคยคิดว่าหุ่นอ้วนๆ สิวเยอะๆ เป็นปัญหา แต่พวกเขากลับทำให้ดิฉันหมดความมั่นใจแล้วอยากฮึดขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ไม่อยากให้ใครมาดูถูกแล้วหัวเราะเยาะเราอีก เราอดทนแสร้งขำกับคำพูดเสียดแทงของสังคมมามากเกินไป ถึงเวลาที่ดิฉันต้องทำอะไรสักอย่างให้กับตัวเองแล้ว
ดิฉันเคยอ้วน 54 กิโลกรัมด้วยส่วนสูงที่มีเพียง 158 ซม. สิวขึ้นหน้าจนแทบจะไม่มีที่หายใจ ครบเซ็ทเลยค่ะ ทั้งอ้วน เตี้ย สิวเขรอะ ตาตี่ ไม่รู้จะเอาอะไรมาสู้เขา ยังดี้ยังดีที่พระเจ้ายังประทานความขาวอันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันพอจะต่อสู้กับคนอื่นเขาได้มาให้ ดิฉันอดทนลดความอ้วนโดยไม่พึ่งยาใดใดทั้งสิ้น รักษาสิวแทบเป็นแทบตาย สุดท้ายดิฉันก็ผอมลง ผิวหน้าก็ดีขึ้น
แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะพยายามยังไงมันก็ยากที่จะเป็นไปได้ ก็คือดวงตาที่อ่อนหวานที่จะช่วยทำให้ใบหน้าของดิฉันดูดีขึ้นค่ะ ทั้งๆ ที่ดิฉันพยายามมาจนถึงขนาดนี้ แต่ใบหน้าจืดชืดของดิฉันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าที่ควร ด้วยความที่ว่าดิฉันยังเป็นนักศึกษายังไม่ได้หาเงินด้วยตัวเองนั้น ทำให้ดิฉันเกรงใจคุณพ่อคุณแม่เรื่องค่าใช้จ่าย ที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย การจะขอเงินก้อนมาเสริมสวยจึงเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ เรื่องศัลยกรรมความงามนี่คงเป็นเรื่องอีกหลายปีข้างหน้าเลยค่ะ
ดิฉันศึกษาหาทุกวิถีทางที่ไม่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากมาย สิ่งแรกคือสติ๊กเกอร์ติดตาสองชั้นค่ะ ครั้งแรกที่ใช้…พอใจในระดับหนึ่งทีเดียว แต่ก็ยังมีคนบางคนแอบขำที่ตาของดิฉันมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ มันก็ไม่ได้ดูเนียนมากมายอะไรแต่ก็ยังพอถูๆ ไถๆ ไปได้บ้างนั่นล่ะ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ดิฉันเกิดแพ้สติ๊กเกอร์ติดกาวสองชั้น!! ด้วยความที่ว่ามันอับชื้นและติดทุกๆ วัน ทำให้ตาดิฉันบวมเป่งอย่างกับไข่จระเข้ เอาแล้วไง สวยทำซวยซะแล้ว ดิฉันจำใจต้องทิ้งสติ๊กเกอร์ติดตาสองชั้น แล้วกลับมาเป็นคนตาชั้นเดียวเช่นเคย พยายามทำใจว่าตาชั้นเดียวก็สวยได้
วันต่อมา ดิฉันพยายามแต่งหน้า แต่งยังไงก็ดูไม่ดี ไปมหาลัย…เชื่อไหมคะ เพื่อนบอกว่าดิฉันดูแก่และโทรมมาก เท่านั้นแหละค่ะ กลับบ้านมาร้องไห้จะเป็นจะตาย ลดความอ้วนก็แล้ว รักษาสิวก็แล้ว ทำไมล่ะ…ดิฉันยังขาดอะไรอีก ก็ดิฉันไม่ได้มีเงินมากมายนี่นา เงินจะกินก็ต้องประหยัด ให้เอาไปใช้กับความสวยความงามก็คงไม่ได้ (แม้ว่าใจตอนนั้นจะอยากพุ่งไปคลินิกทันทีก็ตาม) ฉันตัดสินใจหันไปใช้กาวทำตาสองชั้นแทน ทุกๆ เช้าฉันจะต้องตื่นมานั่งทำตาให้มันดูเนียนและธรรมชาติ ทำให้ตามันเท่าๆ กัน ซึ่งมันยากมาก!!! แม้ว่าดิฉันจะทำทุกวัน แต่ดิฉันก็ไม่เคยชินเลยกับสิ่งเหล่านี้ และไม่ใช่ว่ามันจะเนียนด้วยนะคะ มันยังทิ้งความเป็นคราบบนเปลือกตาให้ดิฉันต้องเศร้าใจทุกที
เฮ้อ ทำไมจะสวยทั้งทีทำไมมันยากจัง อยากมีความรู้สึกแบบตื่นมาอาบน้ำทาแค่แป้งแล้วไปเรียน อยากมีความรู้สึกว่าไม่ว่าจะแต่งตายังไงมันก็เข้ากันดีกับดวงตาของดิฉัน ดิฉันอยากจะสวยให้เต็มที่ อุตส่าห์เกิดมาชีวิตหนึ่งแล้วนี่นา จะให้รอชาติหน้าก็คงรอไม่ไหว เพื่อนสวยๆ ของดิฉันจะทำอะไรก็มีอภิสิทธิ์ไปหมด ใครๆ ก็อยากรู้จัก ทำอะไรก็ดูน่ารัก ดิฉันอยากมีสักครั้ง…ความรู้สึกแบบนั้น ดิฉันอยากรู้สึกดีกับสิ่งที่เห็นในกระจก และสนุกไปกับมันเวลาที่จะต้องแต่งหน้า
ดิฉันรีเสิร์จหาข้อมูลการทำตาสองชั้นมาเป็นระยะเวลาประมาณสองสามเดือน ดูทุกรีวิว ทั้งแบบกรีด แบบเย็บสามจุด ดิฉันศึกษาและเตรียมใจมานานมาก จนกระทั้งมาเจอรีวิวของที่นี่ BB Clinic หรือ BB you ผลงานของที่นี่เป็นที่ที่น่าพอใจมากและดิฉันมั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่าดิฉันจะต้องทำที่นี่ ดิฉันไม่เคยดูของหมอที่ไหนอีกเลยหลังจากเห็นรอยแผล ผลงาน การเย็บของที่นี่ ดิฉันสนใจวิธีทำแบบเจาะของที่นี่มาก มันไม่ทิ้งรอยแผลไว้มาก พักฟื้นไม่นานมาก ที่สำคัญผลลัพธ์ที่ได้ออกมาสวยอย่างที่ดิฉันคาดหวังเอาไว้ไม่มีผิด ไม่มีอะไรที่เหมาะเจาะไปกว่าที่นี่อีกแล้ว
ดิฉันเข้าเว็บของทางร้านแทบทุกวันๆ เพื่อดูว่ามีโปรโมชั่นอะไรบ้าง เผื่อว่าถ้าทำได้ จะลองขอคุณพ่อคุณแม่ดู (ซึ่งแน่นอนพวกเขาลำบากใจที่จะให้เงินก้อนมาทำเรื่องความสวยความงาม แม้ว่าพวกเขาจะไม่รังเกียจการทำศัลยกรรมเลยก็ตาม) และแล้วดิฉันก็ได้เจอกับโครงการ Make a wish นี้เข้า มันเหมือนกับเป็นของขวัญจริงๆ ถ้าดิฉันได้ร่วมโครงการและเป็นผู้ถูกรับเลือก นี่คงจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ดิฉันไม่เคยหวังอยากทำศัลยกรรมเพื่อเอาไปให้คนอื่นๆ อิจฉา แต่ดิฉันอยากจะใช้โอกาสนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เหลืออีกหลายสิบปีให้มีความสุขและพอใจกับสิ่งที่ตัวเองจะได้เห็นในกระจกทุกวัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความฝันของดิฉันเป็นจริง
ขอบคุณสำหรับโครงการดีๆ แบบนี้ค่ะ
ถ้าคุณคือคนที่ส่งเรื่องราว Make a Wish เรื่องนี้เข้ามา ติดต่อกลับพี่ควีนที่ 02-185-2900 หรือที่ 086-334-0600 ในวันเวลาทำการ เพื่อเข้ามารายงานตัวและรับของสมนาคุณที่ BB Clinic เลยค่าาา ^_^