แสงแดดและรังสี UV มีผลกระทบอย่างไรต่อผิว (2/2)
เป็นที่ทราบกันดีกว่าแสงดดนั้นก่อให้เกิดปัญหาผิวหนังมากมายเช่น รอยตีนกา ริ้วรอยก่อนวัยอันควร ลดภูมิคุ้มกันผิวหนัง และมะเร็ง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากกระบวนการทางชีวเคมีที่ซับซ้อนมากมาย ซึ่งผลกระทบต่อผิวหนังก็คือแสงแดดจะทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพ, ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระบนผิวหนัง , แทรกแทรงการซ่อมแซมเซลล์ DNA และยับยั้งการทำงานของภูมิคุ้มกันมะเร็งเป็นต้น
คอลลาเจนเสื่อมสภาพ
แสงแดดจะทำลายคอลลาเจนไฟเบอร์ใต้ผิวหนังและก่อให้เกิดให้อีลาสตินที่มีลักษณะผิดปกติเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เอนไซม์ที่ชื่อว่า Metalloproteinases มีปริมาณที่เพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าเอนไซม์ตัวนี้เองค่ะ เมื่อมีปริมาณที่มากขึ้นก็ทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนังก่อนให้เกิดความผิดปกติของคอลลาเจนไฟเบอร์ ซึ่งทำให้เกิดริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้า (solar scars) และสุดท้ายก็จะพัฒนากลายเป็นรอยตีนกาและรอยย่นบนใบหน้านั่นเอง
อนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระคือโมเลกุลอ๊อกซิเจนที่ไม่สเถียร นำไปสู่การทำลายผิวแบบปฏิกิริยาลูกโซ่ นอกจากนี้ยังสามารถก่อให้เกิดมะเร็วผิวหนังได้อีกด้วยจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทาง DNA ของเซลล์ผิวหนัง
ปฏิกิริยาต่อคุ้มกันโรคมะเร็งของร่างกาย
การทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวและเซลล์ Langerhans ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง คือปัจจัยหลักของร่างกายในการยับยั้งเซลล์การพัฒนาของเซลล์มะเร็ง แต่รังสี UV ในแสงแดดจะทำปฎิกิริยาก่อให้เกิดสารเคมีบางอย่างซึ่งเป็นตัวลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันมะเร็งของร่างกายพวกนี้ลง
การยืดหดตัวของผิวหนัง
รังสี UV ก่อให้เกิดสภาวะ Solar Elastosis เป็นภาวะยืดและหดตัวผิวหนัง สำหรับสภาวะหดตัวนั้นจะทำให้ผิวหนาขึ้นเป็นสาเหตุของรอยตีนกา และรอยย่นบริเวณคอด้านหลัง สำหรับสภาวะยืดตัวนั้นจะทำให้ผิวหนังบางลง สามารถเกิดรอยฟกช้ำและได้ง่าย
กระแดด
กระแดด มีลักษณะจุดน้ำตาลเล็กๆผิวเรียบ พบในคนสูงอายุหรือผุ้ต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นประจำ กระแดดเกิดจากปฏิกิริยาของรังสี UV ที่ทำให้เกิดการผลิตเม็ดสีมากกว่าปกติบนผิวหนัง กระไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณใบหน้าเท่านั้นแต่สามารถเกิดขึ้นได้หลายส่วนตามร่างกายเช่นบริเวณหลังมือ ขา แขน
มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ผิวหนังทั่วตัว แต่พบมากบริเวณที่ถูกแสงแดด เช่น หน้า คอ มือ แขน แบ่งชนิดเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีความเข้มข้นของรังสี UV สูงที่สุด ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังมักเกิดจากแสงแดด ผิวหนังส่วนที่ถูกแสงแดดจะพบว่าเป็นมะเร็งมากกว่าผิวหนังส่วนอื่นๆ
ช่วงนี้แดดร้อนจัด จะไปไหนมาไหนอย่าลืมทาครีมกันแดดเสมอนะคะ และที่สำคัญต้องพกครีมกันแดดติดตัวไว้เติมระหว่างวันด้วยจะดีมากๆเลยค่ะ
ที่มา dermatology.about.com
ภาพ istockphoto.com
BB Presenter Make a Wish — Story 9
Make a Wish ทำตาสองชั้น
เรื่องราวที่จะเล่าสู่กันฟังถึงความลำบากของสาวตาชั้นเดียวหรือตาสองชั้นหลบในนะคะ เพื่อนๆที่มีตาชั้นเดียวหรือตาหลบในคงเข้าใจกันดีว่าวิสัยทัศน์ของเราจะแคบกว่าคนอื่นๆเขา ไม่ใช่ว่าไม่มองการใกล้อะไรหรอกนะคะ แต่ว่าหนังตาเจ้ากรรมมันทำให้เรามองอะไรกว้างขวางแบบคนตาโตๆไม่ค่อยจะได้ แล้วยิ่งคนไหนขนตาตกอีกนะ โอ้ย!!! รูจะให้มองก็เล็กจะแย่อยู่แล้วยังมีขนตามาช่วยบดบังอีก แจ่มคะ ทำไมโลกช่างแคบอย่างนี้ แล้วคนตาเล็กๆหมวยๆเนี่ยจะโดนล้อตลอดเลยคะ บ้างก็ทักว่าหลับตาอยู่หรอ บ้างทักว่าหลับตาเดินระวังล้มนะ ไม่ค่อยมีคนล้อคนตาโตๆกันหรอกคะ คนตาเล็กน้อยใจ T-T
ยังมีอีกนะคะแค่ตาเล็กก็ลำบากอยู่แล้ว อยากจะสวยจะแต่งหน้างามๆทั้งทีก็แสนจะลำบาก ซื้อเครื่องสำอางมาเยอะแยะ อายไลเนอร์ อายแชโดว์ อยากแต่งสโมกกี้อาย กรีดอายไลเนอร์สวยๆ แต่ว่าที่แต่งมันหลบเข้าไปข้างในหมดเลยค๊า!!! มองไม่เห็นอะไรเลยคะ
อายไลเนอร์ที่เขียนก็โดนหนังตาปิดหมด จะเขียนเป็นเส้นเล็กๆพอเป็นพิธีไม่ได้หรอกค่ะมองไม่เห็นต้องเขียนแบบลาดยางมะตอย อายแชโดว์ที่ไล่สีสวยๆ สโมกกี้อาย ก็มองไม่ชัด ไม่สวยเท่าคนที่ตาสองชั้นโตๆแต่ง และเวลาแต่งก็แสนจะลำบากเขียนอายไลเนอร์ก็ลืมตาขึ้นมาเลยไม่ได้ต้องรอแห้งเอาหน้าไปตากพัดลมรับลมประหนึ่งถ่ายMVอยู่ริมทะเล เวลาแต่งหน้าจะให้สวยเหมือนคนตาสองชั้นนั้นยากคะ
อ๋อ!! ยังมีอีกเรื่องที่ลำบากคะเวลาจะใส่คอนแทคเลนส์นี่ลำบากมากคะยิ่งเป็น Big eye นะคะ ต้องเปิดหนังตาแหกลูกตากันเต็มที่ ไม่งั้นใส่ไม่เข้าคะ อุปกรณ์ที่ช่วยให้มีตาสองชั้น เช่น กาวทำตาสองชั้น สติกเกอร์ทำตาสองชั้น มันก็มีนะคะ แต่พอใช้แล้วมันดูไม่เป็นธรรมชาติเลยเวลาสังเกตุดูก็จะมองเห็นได้ว่าใช้สติกเกอหรือกาวทำให้เป็นตาสองชั้น และมันก็ไม่ได้อยู่ถาวรพอเราเช็ดเครื่องสำอางหรือเอาสติกเกอทำตาสองชั้นออก เราก็จะเจอกับตาอันเล็กๆของเราอีกครั้ง
เขาว่ากันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ดิฉันก็อยากให้หน้าต่างสู่หัวใจของดิฉันใหญ่กว่านี้และสวยงามกว่านี้อีกหน่อย เผื่อว่าจะได้มีใครมองเห็นหัวใจได้ง่ายๆ เพราะว่าตอนนี้เวลาใครๆมองดวงตาของดิฉันก็จะเห็นหน้าต่างที่เปิดไว้แค่ครึ่งเดียว ตอนนี้ดิฉันอยากให้คนอื่นมองเห็นหน้าต่างที่เปิดเต็มที่และสวยงามเพื่อที่จะได้มองเข้าไปถึงหัวใจได้ชัดเจน
ชัญทิชา เมธากุลวัฒน์
BB Presenter Make a Wish — Story 8
Make a Wish ทำตาสองชั้น
สวัสดีค่ะ ^^
ชื่อ นางสาว จิราวรรณ ภาณุสุวรรณวงศ์ ชื่อเล่น มิว อายุ 21 ปี
กำลังศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลกค่ะ
ประวัติการทำศัลยกรรมทำศัลยกรรม 1 ครั้ง คือ ทำคาง มา 2 ปีแล้วค่ะ ก่อนทำคางรู้สึกว่าโครงหน้าตัวเองไม่สวย อยากให้โครงหน้าดูเรียว สวย ได้รูปขึ้น จึงตัดสินใจทำคางค่ะ
แต่สิ่งที่อยากทำที่สุด คือ ตา 2 ชั้นค่ะ แต่ก็กล้าๆกลัวๆไม่ค่อยมั่นใจ เพราะกลัวทำออกมาแล้วจะไม่สวย กลัวไม่เท่ากัน คนรอบข้างก็บอกว่าเป็นหมวยอย่างนี้ดีอยู่แล้ว
แต่…พอมารู้จัก บีบีคลินิก ก็เกิดความรู้สึกอยากจะทำตา 2 ชั้นอีกครั้งค่ะ เพราะเห็นบีบีพรีเซ็นเตอร์ทำตากันสวยขึ้นทุกคนค่ะ มันคือความฝันตั้งแต่เด็กที่อยากจะตากลมโตเหมือนคนอื่นๆ คุณแม่ก็ทำตา 2 ชั้นตั้งแต่มิวยังเด็กๆ เลยรู้สึกว่า อยากจะตาสองชั้นอยากสวยเหมือนคุณแม่ค่ะ
จิราวรรณ ภาณุสุวรรณวงศ์
BB Presenter Make a Wish — Story 7
Make a Wish ทำตาสองชั้น
สาวเจ้าคนนี้เขียนบรรยายเกี่ยวกับความต้องการอยากทำตาสองชั้นแบบสั้นๆ แต่กระชับ ตรงประเด็น และได้ใจความชัดเจนค่ะ
อยากมีตาสองชั้น ทำให้ตามีมิติ ไม่ต้องแต่งหน้ามาก ปัจจุบันตาเล็กมากทำให้ต้องเขียนตาทุกวัน บางกิจกรรมที่ไม่ควรแต่งหน้าก็ต้องแต่ง เพราะถ้าไม่เขียนตาหน้าจะโทรมมาก การที่ตาโตขึ้นทำให้ดูดีกว่าเดิมมาก ส่องกระจกทีไรไม่พอใจตาตัวเองสักที อยากมีดวงตาคมๆ หวานๆ ค่ะ
วราภรณ์ จำปาวงศ์
BB Presenter Make a Wish — Story 6
Make a Wish ทำจมูก
มีความฝันมากมายบนโลกใบนี้ หลายคนทำให้ความฝันกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ ในขณะที่บางคนได้เพียงฝันค้าง หรือต้องใช้ความพยายามจนแทบจะท้อกว่าจะคว้าฝันนั้นมาไว้ในมือได้ นอกจากนั้นยังมีบางคนที่แม้จะมั่นใจในความสามารถของตัวเองแค่ไหนแต่ก็ยังขาดความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองเมื่อเจอกับสายตาที่มองมาก็ไม่สามารถที่จะทำได้ดีอย่างที่หวังไว้ มีใครบางคนเคยพูดไว้ว่าแม้จะมีความสามารถเพียงใดแต่ก็ยังต้องอาศัยใบเบิกทางช่วยบ้างอยู่ดี และความสวย ความน่ามองก็คือใบเบิกทางชั้นดีชนิดหนึ่งนั่นเอง
เราก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการมีใบเบิกทางนั้นติดตัวบ้าง ในฐานะคนที่มีความฝันที่จะทำงานร่วมกับคนมากมาย หวังไว้ว่าจะได้ทำงานเพื่อการช่วยเหลือผู้คน การพบปะผู้คนย่อมต้องสร้างความประทับใจทีดีให้แก่ผู้ที่ได้พบกันเพื่อให้เรื่องราวต่อจากนั้นเต็มไปด้วยสิ่งดีๆตามมา
มาเข้าสู่โหมดปกติกันดีกว่าค่ะ หากถามว่าตัวเองอยากเปลี่ยนแปลงอะไร หากต้องเลือกระหว่างตากับจมูกโดยส่วนตัวแล้วอยากศัลยกรรมจมูกมากกว่า เพราะตอนนี้ยังอยากคงความเป็นสาวหมวยของตัวเองไว้ ส่วนสาเหตุส่วนลึกจากใจนอกจากในย่อหน้าข้างบนแล้วที่อยากเปลี่ยนแปลงก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากสวยขึ้นค่ะ!! ฮ่าฮ่า ก่อนเล่าเรื่องราวต่างๆที่เจอขอระบายก่อนเลยว่า “เจ็บปวดค่ะ!”
จะไม่ให้เจ็บได้อย่างไรล่ะคะ เจอมาหลายดอกจริงๆ..
ตอนเด็กๆนี่ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าเป็นเด็กน่ารักค่ะ (น่านนน.. ช่างกล้า) พูดจริงๆนะคะ ใครๆก็เอ็นดู แต่ไม่รู้ว่าตอนโตขึ้นมาไปทานอะไรผิดหรือไปพลาดที่ตรงไหนหน้าตาถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ ลุงข้างบ้านที่เคยเอ็นดูเรามากๆตอนเด็กๆเจอก็ชมน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ ผ่านไปเกือบสิบปีได้มาเจอกันอีกทีลุงคนเดิมของหนูกลับทักว่าทำไมโตมาแล้วไม่เห็นน่ารักเหมือนเดิมเลย ..เล่าแล้วก็เจ็บปวดแต่ยังไม่พอ ขอเรื่องนี้อีก เรื่องนี้นี่ได้ยินมาจากปากเพื่อนสนิทกันเลยค่ะ คือตอนม.ต้นไปถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กับเพื่อนแล้วก็มีรุ่นพี่มาเห็นรูปเราค่ะ บอกน่ารัก(..อีกแล้ว)ให้เพื่อนช่วยชี้ให้ดู พอเห็นตัวจริงรุ่นพี่คนนั้นก็อาการแบบว่านี่คนละคนกับในรูปแล้ว เพื่อนน่ารักมากก็อุตส่าห์แก้ต่างให้ว่าตอนนั้นเราคงผมสั้นกว่าในรูป เจอสวนมาว่า “คนมันไม่สวยต่อให้ผมยาวถึงตาตุ่มก็ไม่สวยหรอก” เจอประโยคนี้เข้าไปแทบช็อก ฝังใจเลยค่ะ โตไปเดี๋ยวจะสวยแบบผมไม่ต้องยาวถึงตาตุ่มให้ดู ฮึ่ย!!! ยังไม่หมดค่ะยังมีอีกหลายดอกอยู่ แต่ถ้าให้เล่าอาจจะยาวเป็นเปเปอร์วิจัยกันไป
ตอนนี้ก็เริ่มโตเป็นสาว(ที่จะเข้าสู่วัยทำงาน)แล้วค่ะ พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เริ่มดูแลตัวเองแต่งหน้าแต่งตาให้ดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น (แต่ได้ข่าวว่ารูปที่ส่งเข้าร่วมโครงการก็ยังหน้าสดอยู่นะ -*- ) คือเวลาแต่งหน้าแล้วก็ดูดีขึ้นนะคะ แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนหน้าบานค่ะ (คุณแม่ชอบเรียกหน้ากะละมัง T.T) ถึงจะแต่งแล้วแต่ตัวเองก็ยังรู้สึกว่าหน้ามันไม่มีมิติอยู่ดี เลยอยากเสริมดั้งให้หน้ามีมิติขึ้นมาบ้างค่ะ มีหลายคนที่เคยเห็นหรือรู้จักไม่ว่าจะเป็นดาราหรือเพื่อนฝูงกันก็ตามที่สวยหน้ามีมิติแม้จะหน้าไม่ได้เรียวเล็กหรือเป็นวีเชป อยากเป็นแบบนั้นบ้างค่ะ อยากมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเวลาที่พบเจอผู้คนเวลาที่ถ่ายรูป อยากสวยได้โดยที่ไม่ได้เป็นคนหน้าเล็กบ้าง (ความอัดอั้นตันใจของคนหน้าบานโดยแท้!!)
บ่อยครั้งนะคะที่แอบคิดว่าถ้าเราดูดีขึ้นเราคงมีความมั่นใจที่จะแสดงออกมากกว่านี้ บุคลิกภาพของเราจะเป็นตัวกำหนดการแสดงออกของเราจริงๆค่ะ มีช่วงหนึ่งเคยเรียนเต้นฮิพฮอพจำได้แม่นเลยว่าตัวเองมักจะเต้นได้ไม่ดีเลยถ้าวันไหนแต่งตัวแบบแมนๆไปแต่ต้องไปเต้นท่าผู้หญิ๊งผู้หญิง วันนั้นจะเต้นได้เก้งก้างมากทำอย่างไรก็เข้าไม่ค่อยถึงอารมณ์ของท่าที่ต้องมีความมั่นใจว่าฉันสวย ฉันเซ็กซี่ มองในกระจกก็รู้สึกติดขัดเหมือนมันไม่ใช่ที่ของเราตรงนั้นจริงๆค่ะ แต่ถ้าวันไหนแต่งตัวแบบผู้หญิงจ๋า หรืออกเซ็กซี่นิดๆก็จะทำได้ดีกว่ามากเลยล่ะค่ะ รู้สึกมองตัวเองในกระจกแล้วมันใช่ นี่แหละภาพลักษณ์ที่ต้องเป็น ถึงจะยังขัดใจกับหน้าตาตัวเองในกระจกอยู่บ้างก็เถอะค่ะ จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้เป็นแค่ตอนเรียนเต้นหรอกนะคะ แต่ในชีวิตประจำวันปกติก็เป็นค่ะ
ผู้หญิงลึกๆแล้วไม่ว่าจะเป็นคนอย่างไรแต่โดยธรรมชาติก็อยากสวย อยากดูดีขึ้นอยู่แล้วล่ะค่ะ เลยรู้สึกว่าหากได้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้นได้เวลาทำอะไรคงมั่นใจเต็มที่มากขึ้น รู้สึกดีกับตัวเองมากยิ่งขึ้น บอกตัวเองให้ยืดอกได้เต็มที่ว่า “ฉันมีความสามารถและฉันก็สวยนะคะ!!”
พิชญ์สินี ศิริศรี