ทุกวันนี้การทำศัลยกรรมเพื่อเสริมเติมแต่งความงามได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายแล้วนะคะ ไม่เหมือนในสมัยก่อนที่สาวๆ คนไหนไปทำมาต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าไปทำโน่นเติมนี่มา จนจะพูดได้เลยว่าการทำศัลยกรรมความงาม ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูก ทำตาสองชั้น ดึงหน้า หรือเสริมหน้าอก กลายเป็นเรื่องที่ง่ายไปซะแล้วก็คงไม่ผิด แต่รู้ไหมคะว่า ถึงแม้การทำศัลยกรรมจะช่วยเปลี่ยนและเสริมสร้างรูปลักษณ์ของเราให้ดีอย่างใจฝันได้มากแค่ไหน มันก็มีผลกระทบในระยะสั้นและยาวกับตัวเราเองเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ใครบ้างละคะที่ไม่อยากสวย ไม่อยากดูดี จริงไหม ดังนั้นถ้าเริ่มต้นคิดอยากสวยด้วยมือแพทย์ขึ้นมาเมื่อไหร่ สาวๆทุกคนก็ควรที่จะมานั่งสำรวจตัวเองกันดูก่อนว่า มีความพร้อมที่จะทำมากแค่ไหน กับเงื่อนไข 4 ข้อต่อไปนี้ที่คุณต้องตัดสินใจยอมรับในการทำศัลยกรรมความงามค่ะ
ต้องยอมรับกันก่อนเลยว่า การทำศัลยกรรมไม่อาจช่วยเนรมิตได้ทุกอย่างจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของ “อายุ” ถ้าช่วงอายุของคุณเดินไปใกล้วัยทองเข้าทุกที แต่อยากดูดีเหมือนเด็กอายุ 20 ต้นๆ การทำศัลยกรรมไม่ใช่คำตอบนะคะ นั่นคือการตั้งความคาดหวังไว้เกินจริงมากๆ จนหมอไม่อาจทำให้คุณ แต่ถ้าหมอคนไหนพูดว่าทำได้ จำไว้เลยว่าเขาโกหกเพราะอยากได้คุณไปเป็นลูกค้าแน่นอน ทำใจยอมรับกับสภาพที่จะออกมาหลังการผ่าตัดไว้ด้วยนะคะ
ถึงการทำศัลยกรรมจะช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ สิ่งของคุณให้ดูดีขึ้นได้ก็จริง แต่อารมณ์ระหว่างการตัดสินใจทำก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ อย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ ว่าอยากทำศัลยกรรมเพราะคุณอยากดูดีเนื่องจากพึ่งเลิกกับแฟน อยากทำเพราะพึ่งเปลี่ยนงานใหม่ เลยอยากดูดีเพื่อให้เข้ากับสังคมใหม่ๆได้ หรือกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเอง นั่นคือการตัดสินใจเดินหน้าทำ เพราะต้องการตอบโต้เหตุการณ์สำคัญที่เกิดกับชีวิต โดยไม่ได้คิดถึงผลข้างเคียงที่จะตามมาเลยค่ะ คุณต้องรู้ก่อนว่า สิ่งที่คุณกำลังจะทำนั้นถึงมันจะทำให้คุณเปลี่ยนแปลงได้ดั่งใจก็จริง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด ด้วยเงินทองที่ต้องเสียไป ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นจากอาการแสบบวมแดงหลังการผ่าตัด ไม่ใช่ว่าผ่าเสร็จปุ๊ปจะสวยปั๊ปจริงไหมคะ ยังไงก็ต้องตัดสินใจให้ดีๆ
เวลาส่องกระจกคุณมองเห็นหน้าตาตัวเองเป็นอย่างไรกันบ้าง? มีแต่จุดด้อยเต็มไปหมด หรือดูดีแต่ต้องอาศัยการเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย เคยได้ยินไหมคะว่า โครงหน้าของคนแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ถึงจะเอเซียเหมือนกันก็เถอะ อย่างที่ประเทศเกาหลีที่เห็นทำศัลยกรรมออกมาแล้วสวยดูดีกันทุกคน แต่บ้านเราไม่ทำจะดีกว่าก็มี นั่นอาจเป็นเพราะโครงหน้าของเขาเหมาะกับการทำศัลยกรรมจริงๆ ก็ได้ หรือไม่ก่อนทำก็มีเค้าโครงความสวย ความน่ารักอยู่แล้ว ถ้าคุณส่องกระจกแล้วเห็นแต่จุดด้อยบนหน้าของตัวเองเพียงอย่างเดียว การทำศัลยกรรมอาจไม่ทำให้คุณสวยเหมือนนางงามได้ภายในชั่วข้ามคืนนะคะ เพราะถ้าคิดแบบนี้มีโอกาสผิดหวังอยู่มาก แต่ปัญหานี้ก็ยังพอแก้ได้นะคะ ด้วยนวัตกรรมใหม่อย่าง กล้องสามมิติ Virtual 3D Scan ที่ BB Clinic สถาบันเสริมความงามตามแบบฉบับเกาหลีที่สามารถ สแกนใบหน้า และจำลองภาพเสมือนจริงหลังทำศัลยกรรม ซึ่งมีอัตราความเหมือนอยู่ที่ 90% เลยนะคะ เจ้าเครื่องนี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้ดีมากทีเดียว ถ้าเห็นแล้วไม่ชอบจะเปลี่ยนใจไม่ทำก็ได้ ไม่มีอะไรเสียหาย ดีกว่าพลาดทำไปแล้วต้องมากลุ้มใจทีหลังค่ะ
ก่อนทำศัลยกรรมอย่าลืมปรึกษาแพทย์ หรือตรวจเช็คร่างกายให้ดีก่อนนะคะ ว่าช่วงนี้ฟิตพอที่รับการผ่าตัดได้รึเปล่า ถ้าไม่อย่าคิดฝืนทำเด็ดขาด ถ้าอยากทำศัลยกรรม สิ่งที่จำเป็นต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัดก็คือการออกกำลังกายค่ะ รวมถึงต้องดูแลผิวพรรณอย่างจริงจังด้วยในกรณีที่ผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้ว เพราะการทำศัลยกรรม ไม่ได้ทำให้คุณดูสวยขึ้นเป็นอมตะอยู่ตลอดยังไงก็ต้องมีเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ไม่ดีเหรอค่ะ ถ้าคุณมีพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาที่สวยงามและสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ตลอดเวลา ยิ่งถ้าคุณอายุมากแล้วก็ยิ่งต้องดูแลรักษาร่างกายให้มากกว่าปกติ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ ทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่าเครียด สิ่งเหล่านี้จะช่วยชะลอระยะเวลาของสังขารตามธรรมชาติที่จะมาเยือนคุณอีกครั้งให้ช้าลงอีกเยอะเลยคะ
เป็นยังไงบ้างคะกับเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อนี้ ถ้าคุณอ่านครบทุกข้อแล้วพบว่าทุกอย่างพร้อม อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงๆ ก็เริ่มได้เลยค่ะ แต่อย่าลืมเลือกสถาบันเสริมความงามที่มีชื่อเสียงไว้วางใจได้นะคะ จะได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าสิ่งที่กำลังตัดสินใจทำอยู่ตอนนี้ต้องออกมาดีอย่างแน่นอนค่ะ
ด้วยความที่ผมเป็น หมอศัลยกรรมตกแต่ง เมื่อมีคนไข้ต้องการดึงหน้า ผมมักคิดในใจเสมอว่า งานเข้าซะแล้ว เพราะอะไรนั่นเหรอครับ ก็เพราะการผ่าตัดดึงหน้า แล้วทำให้เกิดความพึงพอใจ ทั้งผู้ป่วยและตัวหมอเองเป็นเรื่องยาก สาเหตุมาจาก การผ่าตัดดึงหน้า ไม่สามารถแก้ไขในสิ่งที่คนไข้ต้องการได้จริงๆ นะซิครับ
การผ่าตัดดึงหน้านั้น เหมาะสำหรับ คนที่มีหน้าผากย่น หัวคิ้วย่น หนังตาตก ถุงใต้ตา และ เนื้อเยื่อข้างแก้มหย่อนมากๆเท่านั้นเอง นอกนั้นจะถือว่าได้ไม่คุ้มเสีย และที่สำคัญ การผ่าตัดดึงหน้านั้นเหมาะกับคนไข้ที่ อายุ 40 ปลายๆ จนถึง 50 ปลายๆเท่านั้นเอง เพราะ ถ้าอายุมากกว่านี้ การทำการผ่าตัดไปอาจไม่ช่วยอะไรได้มาก เนื่องจากเนื้อเยื่อส่วนใหญ่เริ่ม ผ่อลีบแล้ว ทำการผ่าตัดไปอาจ เหมือนเดิม หรือดีขึ้นเล็กน้อย
ใครที่เคยคิดว่ามีแต่อาชีพ ดารา นักร้อง นางงาม นางแบบ หรือคนในวงการบันเทิง ที่ต้องใช้หน้าตาเป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพเท่านั้น ถึงจะนิยมทำศัลยกรรมเสริมความงามกัน ต้องขอให้เปลี่ยนความคิดของคุณเสียใหม่ได้เลยค่ะ