Category : บทความและสาระน่ารู้

Vaser Liposelection ทางเลือกใหม่่ของการออกแบบรูปร่างให้สมส่วน

หลายๆคนอาจจะยังไม่ค่อยมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูดไขมันโดยการทำ Vaser Slim วันนี้ BB Clinic เลยขอนำสาระดีๆมากฝากจาก Vaser Slim โปรชัวร์ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูดไขมันด้วย Vaser Slim กันค่ะ โปรชัวร์นี้จะมีบริการในคลีนิคฟรีนะคะ หรือถ้าต้องการดาวโหลดเก็บไว้เพื่อเก็บไว้อ่านคราวหลังหรือจะส่งต่อให้เพื่อนๆ ก็สามารถคลิกที่นี่ได้เลยค่ะ ความรู้เกี่ยวกับกาดูดไขมันด้วย Vaser Liposelection โดย BB Clinic


หนุ่มหล่อขั้นเทพ อายุ 17 แต่ทำศัลยกรรมความงามแล้ว 16 ครั้ง

 

ศัลยกรรมความงามใบหน้า

หนุ่มหล่อขั้นเทพที่มีภาพก่อนและหลังทำศัลยกรรมโพสอยู่ทั่วไปตามเวบไซท์ต่างๆเปิดใจให้สัมภาษกับไทยรัฐเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมของเขาในรอบสองปีกว่าๆที่ผ่านมา เผยอายุแค่ 17 แต่ขึ้นเขียงมาแล้ว 16 ครั้ง แปลงโฉมหน้าใหม่จากเดิมที่เป็นคนมีปมด้อยกับหน้าตาของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก กลายเป็นคนหล่อขั้นเทพ มั่นใจในตัวเองมากสุดๆ

“ตั้งแต่จำความได้ผมก็รู้สึกว่าหน้าตาผมห่วย และกลายเป็นปมด้อยที่โดนคนรอบข้างล้อมาตั้งแต่เด็กๆ” หนุ่มวัย 17 ปี ที่ปัจจุบันเรียกได้เต็มปากว่าหล่อขั้นเทพด้วยศัลยกรรม พาย้อนเวลากลับไปตั้งแต่จำความได้ว่าตอนนั้นเขาขี้เหร่ขั้นเทพ อุบาทว์ชนิด โครงหน้า รูปปาก คิ้ว คาง ย่ำแย่ แถมตัวดำ ดั้งก็ยังไม่มีอีก…!

“มันเป็นปมด้อยเพื่อนๆ มักจะล้อเราเรื่องหน้าตาทุกวันๆ ทำให้ผมเครียดนอนไม่หลับ ใคร่ครวญมีอะไรที่จะทำให้เราหล่อได้เร็วๆ บ้างไหม คิดทุกวัน (เน้นเสียง) คิดร้อยแปดสิบองศาก็ไม่เห็นว่ามีทางอื่นนอกจากการใช้การศัลยกรรม หลังจากเข้าไปศึกษาข้อมูลตามเว็บไซต์ว่า คลินิก-หมอที่ไหนเก่งและเด่นเปลี่ยนส่วนไหนของใบหน้า และเก็บเงินอยู่นานจนครบเมื่อตอนอายุ 15 ปี (ปัจจุบันเขาเรียนด้านคอมฯ และหาเงินได้จากการทำงานเป็นเว็บมาสเตอร์ให้เว็บไซต์ดัง และเป็นเจ้าของเว็บ Bit Torrent ด้วย) จึงตัดสินใจว่าจะไปทำศัลยกรรมทันที”

 

ศัลยกรรมใบหน้า

 

หลังจากครั้งแรกผ่านการผ่าตัดเสริมจมูกไปแล้ว ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น สุดหล่อบอกว่าหลังจากนั้นเขาแก้ไขความหล่อแบบพลาสติกมาเรื่อย ไม่ว่าจะเป็นการทำๆ แก้ๆ ดั้งจมูกมา 2 รอบ เสริมคางอีกไม่ต่ำกว่า 2 รอบ กรีดริมฝีปากให้บางอีก 1 รอบ เหลากรามให้เรียวสวยงามอีก 1 รอบ ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นพวกสารเติมแต่งใบหน้า เช่นโบท็อกซ์ ทำให้หน้าเข้ารูป

 

เสริมคาง

 

ถึงศัลยกรรมความงามจะเป็นความเจ็บที่ไม่ต้องจดก็จำไปจนตายสำหรับหลายๆคน แต่สุดหล่อก็เล่าว่า ผลลัพท์มันอาจจะดูง่ายชนิดดีดนิ้วแล้วหน้าเปลี่ยน แต่ความจริงแล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้เค้าต้องผ่านความเจ็บแบบแสนสาหัสมากมายที่จะไม่ลืมไปจนตายเหมือนกัน

การทำศัลยกรรมต้องศึกษาให้ดี เพราะหมอแต่ละคนมีฝีมือในแต่ละส่วนที่แตกต่างกัน บางคนทำออกมาไม่ได้จะดูดีขึ้นเสมอไป เราจึงต้องศึกษาให้ดี และคิดตรึกตรองให้ถี่ถ้วน ที่สำคัญ หลังทำแล้วเรายิ่งต้องดูแลตัวเองให้มากยิ่งขึ้นเพราะจะไม่สามารถปล่อยให้อุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นบนใบหน้าเราได้เลย

กล่าวสำหรับราคาการ «อัพหน้า» เพื่อหล่อเหลาราวกับ ‘ยกเครื่องใหม่’ ถือว่าไม่ใช่เรื่องราวเล่นๆ หนุ่มคนนี้บอกกับไทยรัฐว่า คร่าวๆก็ทำจมูกครั้งแรก 15,000 บาท ครั้งที่สอง 22,000 บาท ทำคางครั้งแรก 16,000 บาท ครั้งที่สอง 25,000 ทำปากราคาถูกหน่อย เพราะทำเว็บให้กับทางคลินิก และเหลากราม 25,000 บาท เป็นต้น

 

เสริมจมูก

 

สุดหล่อทิ้งท้ายกับไทยรัฐ่ว่า หากตอนนั้นไม่ทำศัลยกรรม ชีวิตจะไม่เป็นอย่างวันนี้ เค้าคือคนโชคดีที่ทำศัลยกรรมความงามแล้วออกมาดีทุกอย่าง แต่อยากบอกว่าคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำศัลยกรรมก็มีเยอะเหมือนกัน …

บีบี คลีนิค อยากจะฝากถึงน้องๆที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะว่าในความเป็นจริงแล้วเด็กอายุแค่นี้ยังทำศัลยกรรมไม่ได้นะคะ ถ้าไม่ได้รับใบอนุญาติจากผู้ปกครองก่อน

และการทำศัลยกรรมความงามนั้นผู้ทำต้องมีการศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด เตรียมสภาพร่างกายและจิตใจตัวเองให้พร้อม ต้องมีการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดถึงจะได้ผลที่ดีที่สุดค่ะ

 

 

 

ที่มา: ไทยรัฐ

เรียบเรียง BB Clinic

Ultra Soft Tip Silicone ความหวังของคนอยากมีจมูกปลายหยดน้ำ แต่ไม่อยากเสียหู

 

เมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เข้าร่วมงานประชุม สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศ  ทำให้ได้มีโอกาสเดินดู นวัตกรรมใหม่ที่บริษัทเวชภันฑ์ต่างๆ นำมาแสดงที่งาน   เดินไปเดินมาก็ เหลือบไปเห็น  Silicone สำหรับเสริมจมูกชนิดพิเศษชนิดหนึ่ง

ความพิเศษในที่นี้หมายความว่า เป็น Silicone ที่ผมเคยตามหาอยู่เป็นเวลานานหลายปี แต่ ไม่เคยมีบริษัทเวชภัณฑ์ที่ไหนนำเข้ามาเลย เพราะ ราคาค่อนข้างสูง จึงไม่ได้รับความนิยมในการใช้ในตลาดซักเท่าไรนัก

เกริ่นมานาน หมอจึงอยาก บอกรายละเอียดความพิเศษ ของเจ้า Silicone ตัวนี้กันนะครับ

 

ซิลิโคนเสริมจมูกเกาหลี

 

โดยปกติ Silicone Block ทั่วไป จะมีความแข็ง หรือ นิ่มของเนื่อ Silicone เท่ากันตลอดทั้งแผ่น เช่น แข็ง ก็แข็งไปเลย นิ่มก็นิ่มไปเลย   ซึ่ง ทำให้เกิดผลเสียในผู้ป่วยที่ ต้องการเสริมให้ปลายจมูกยาวๆ มีหยดน้ำ เพราะปลายจมูกที่มี Silicone แข็ง อยู่จะทำให้เกิดการทะลุได้  และถ้าอยากได้ ทรงจมูกสวยๆ และมีปลายหยดน้ำ การใช้ Silicone ที่นิ่มเกินไป ก็ไม่อาจได้ทรงที่ต้องการได้ เพราะเมื่อ Silicone นั้น นิ่มเกินไป แพทย์ก็ไม่สามารถขึ้นรูปทรงได้ดี

 

ดาราเกาหลีเสริมจมูกปลายหยดน้ำ

 

ดังนั้นจึงทำให้คนไข้ส่วนใหญ่ที่ต้องการปลายหยดน้ำ และมีความปลอดภัยไม่เกิดการทุละที่ปลายจมูก จึงหันไปใช้บริการ การเสริมจมูกแบบเกาหลี ( Open technique +  Tip cartilage graft )  โดยมีความมั่นใจว่า ปลายจมูกของตัวเองที่ใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาทำนั้น จะปลอดภัย  ซึ่งการใช้กระดูกอ่อนนั้นก็ปลอดภัยจริงครับ ในแง่ว่ากระดูกอ่อนจากหลังหูก็เป็นเนื้อเยื่อของเราเอง และจะไม่ทำให้เกิดการทะลุตรงปลายจมูกแน่ๆ

 

แต่ทั้งนี้ก็มีข้อเสียเหมือนกันตรงที่ว่า คนไข้ที่เข้าไปรับการรักษาด้วยวิธีนี้ ร้อยละ 3-10 เกิดปัญหาอื่นๆตามมา โดยปัญหาที่พบบ่อยสุดคือ ปลายจมูกที่ใช้จมูกอ่อนมาเสริมนั้น ยุบ ( ทรุดตัว ) ทำให้ปลายจมูกดู บุบๆๆ

 

ปัญหาที่เกิดจากการใช้กระดูกหลังหูมาเสริมปลายจมูก

 

ตรงนี้เป็นผลเนื่องมาจาก การเอากระดูกอ่อนหลังหูมาใช้นั้น จะทำให้เลือดในบริเวณปลายจมูกมาเลี้ยง cartilage graft ไม่พอ ทำให้ กระดูกอ่อนที่นำมาใช้นั้นเกิดการขาดเลือดและเริ่มยุบตัว ( Contraction of Nasal tip )  บางคนมีอาการปลายจมูกแดง  บางคนปลายจมูกยุบ หรือบุ๋ม ไม่เท่ากัน  แถมแก้แล้ว แก้อีก ก็ไม่ดีเหมือนตอนที่หลังทำใหม่ๆๆ  ( 2-3 เดือนแรก )   แพทย์หลายท่านพยายามเร่งแก้ไข ซึ่งยิ่งเร่งแก้ไขเร็วเกินไปก็มักได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี และทำให้ปลายจมูกเสียรูปทรงไปถาวร

 

เมื่อเทียบกับข้อดีของการใช้  Utra Soft Tip Silicone ตัวนี้ ที่มีทั้งความแข็งและนิ่ม อยู่ในซิลิโคนบล๊อคเดียวกัน ในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 ดังนั้นจึงหมายความว่า ตรงส่วนสันจมูก เราสามารถใช้ส่วนที่มีความแข็งของ Silicone ทำให้ สันจมูกดูโด่ง และใช้ส่วนนิ่มของ silicone  ( ส่วนที่เป็นลักษณะใสๆ ) สร้างปลายจมูกหยดน้ำ ซึ่งทำให้ลดอัตราการเกิดการทะลุปลายได้นั่นเอง

 

ซิลิโคนเสริมจมูกเกาหลี

 

จากในภาพด้านบน จะเป็นภาพเปรียบเทียบ ลักษณะ Silicone ธรรมดา (อันด้านบน) เทียบกับ Utra Soft Tip Silicone (อันด้านล่าง)

 

ซิลิโคนได้ถูกพัฒนาขึ้นมาตลอดหลายยุคสมัย ทั้งนี้ได้มีการปรับปรุงเพื่อแก้ไขสิ่งบกพร่องของนวัตกรรมก่อนหน้านั่นเอง

 

ยุคที่ 1 :  เมื่อ 20 ปีก่อน การเสริมจมูกจะใช้ Block Silicone นำมาเหลา เพื่อให้ได้ รูปร่าง Silicone ที่เหมาะสมในการเสริมจมูก แต่ก็พบปัญหาว่า Silicone นั้นมีความแข็งกว่าเนื้อ โดยเฉพาะปลายจมูกซึ่งเป็นตำแหน่งที่มักเป็นจุดที่ ทะลุบ่อยสุด สาเหตุการทะลุมักเกิดจาก

 

  1. ถูกกระแทกปลายจมูก
  2. Silicone มีความยาวเกินจมูกเดิม ( ทำเพื่อต่อความยาวจมูก ) ให้มีปลายจมูก
  3. Silicone ค่อยๆเคลื่อนลงมาที่ปลายจมูก

แต่ถ้าเสริมจมูกแบบปลอดภัย  ก็สามารถทำได้โดยง่าย เพียงเสริมจมูกไม่ถึงปลายจมูก ซึ่งผลที่ได้ จมูกจะดูสั้นๆๆ ไม่สวย จึงได้มีการพัฒนาเทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างปลายจมูกให้สวยๆ   ก็คือการผ่าตัดแบบ Open Rhinoplasty + Cartilage graft at tip of nose หรือที่ หลายๆคนเรียกว่า การเสริมจมูกแบบเกาหลี  ( หมอว่า เกาหลีเค้าไม่ได้คิดนะ ฝรั่งมันทำมาก่อน )  แต่อย่างที่กล่าวไว้ ว่า แม้การเสริมแบบเกาหลี ก็ยังมีปัญหาได้ ( คนไข้หลายคนเข้าใจว่า เสริมด้วยเนื้อเยื่อตัวเองปลอดภัยไม่มีปัญหา  อันนี้หมอว่าเป็นการมองเพียงด้านเดียว ซึ่งในความเป็นจริงนั้นก็มีปัญหามากมายตามมาจากการเสริมแบบเกาหลี แต่อาจจะไม่ได้มีการบอกให้คนไข้ทราบหมด )

 

ยุคที่ 2 :  เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ได้เริ่มมีการนิยมใช้ Silicone สำเร็จรูป ที่ทำพิมพ์ออกมาจากโรงงาน แล้วมาเหลาอีกที จากประสบการณ์ของหมอที่ ได้ไปศึกษาที่ เกาหลี บอกได้เลยว่า ร้อยละ 99 ของ Clinic ศัลยกรรมในเกาหลี ใช้ Silicone สำเร็จรูป  ซึ่งข้อด้อยของซิลิโคนสำเร็จรูปคือ เมื่อเป็นของ สำเร็จรูป ก็ไม่ได้จะเหมาะกับหน้าของคนทุกคน และไม่เหมาะสำหรับคนชอบเสริมจมูกโด่งๆด้วยเช่นกัน เพราะ Silicone สำเร็จรูปมักมีขนาดความโด่งที่เป็นมาตราฐานนั่นเอง

 

ยุคที่ 3 : ปัจจุบัน ได้มีการนำ หลอดเลือดเทียม Gortex มาใช้ในการเสริมจมูก เนื่องจาก มีรูปพรุนทำให้เนื้อเยื่อแทรกเข้าไปใน Gortex ได้ ลดอัตราการเคลื่อนที่ลงต่ำของ Silicone จะได้ลดความเสี่ยงในการเกิดปลายทะลุ แต่ก็มีข้อเสียคือ ราคาแพง และการเหลาให้ได้รูปทรงค่อนข้างยาก นอกจากนี้แม้จะมีแบบสำเร็จรูป ก็ยังทำให้ได้รูปทรงที่สวยแบบที่ต้องการได้ยากอยู่ดี ดังนั้นเมื่อไม่สวย ก็ต้องแก้ไข และการแก้ Gortex เก่าที่เสริมไว้ออกนั้นก็ทำได้ค่อนข้างยาก เพรามันยึดติดกับกระดูกใบหน้าไปแล้ว

 

ดังนั้นแม้มีการ พัฒนา Utra Soft tip Silicone ออกมาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของวัสดุที่นำมาใช้ก่อนหน้านั้น แต่ในเมื่อยังไม่มีการใช้อย่างแพร่หลาย จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่า Utra  Soft tip Silicone นั้นดีที่สุด หรือสามารถลดการเกิดปลายจมูกทะลุ จาก Silicone ได้อย่าง 100 %

 

 

 

 

 

ดูดไขมันด้วย Vaser Liposelection ทางลัดของคนอ้วนอยากผอม

 
ก่อนอื่น ขอกริ่นนำก่อนนะครับว่า เมื่อไม่นานมีคนไข้มาปรึกษา ดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser Liposelection เพราะต้องการลดความอ้วน ซึ่งจากการตรวจร่างกาย ก็พบว่า คนไข้ น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตาฐานจริง  ( ค่า BMI   คำนวนจาก  ความสูง หน่วยเป็นเมตร  ยกกำลัง 2 แล้ว หารด้วย น้ำหนักตัวเป็น กิโลกรัม เรียกว่า ค่า BMI ซึ่ง ถ้า น้อยกว่า 20 ถือว่า ผอม และ ถ้ามากกว่า 25 ถือว่า อ้วนแต่ เกณฑ์นี้ผมคิดว่า เหมาะกับคนยุโรปมากกว่า ถ้าเป็นคนเอเชีย ได้ค่าประมาณ 17-20 น่าจะเรียกว่าหุ่นกำลังดี )  ซึ่งผมก็แนะนำคนไข้ ก่อนเลยว่า ถ้าคนไข้น้ำหนักมากหรืออ้วน นั้นการลดไขมันด้วยการดูด หรือสูบไขมันนั้นไม่เหมาะแน่

คนไข้ต้องเข้าใจก่อนว่า การดูดหรือสูบไขมันด้วยเครื่อง Vaser Liposelection นั้นไม่ได้เป็นการลดความอ้วนแต่เป็น การแก้ปัญหาเรื่องรูปทรง ( Body Contour )  หรือ รูปร่างมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น คนไข้ที่น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่มี ต้นขาใหญ่ ต้นแขนห้อยย้อย สะโพกใหญ่ หรือมีหน้าท้องใหญ่ จากไขมัน ซึ่งไม่ว่าจะทำการลดน้ำหนักด้วยวิธีการใดๆแล้ว ก็ตามไม่สามารถทำให้ได้รูปร่างตามที่ต้องการได้

ดังนั้นการลดน้ำหนักที่ได้ผลดีที่สุด ก็คือ  ( Intake น้อยๆ Output มากๆ )
 
1) กินให้น้อย หรือ กินอย่างสร้างสรรค์โดยทานอาหารที่มีประโยชน์และ ควบคุม Calories ต่อวันไม่ให้เกิน 2000-2500 KCal
2 ) ออกกำลังกายให้มากกว่า ที่รับประทานเข้าไป เรียกง่ายๆคือ ต้องออกกำลังกายให้มากกว่า 3000 – 4000 Kcal ต่อวัน
 
และเมื่อน้ำหนักลงมาถึงเกณฑ์แล้ว คนไข้ยังมีส่วนเกินเหลืออยู่อีก Vaser liposelection จึงจะเหมาะสมในการใช้งาน  เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนสงสัยว่า แล้ว Vaser Liposelection เหมาะกับ อวัยวะส่วนไหน ในร่างกายบ้าง
 

ตำแหน่งของร่างกายที่เหมาะสมกับการใช้วิธีการดูดไขมันด้วย Vaser Liposelection  ได้แก่

 
1 ) ต้นขา โดยเฉพาะ ต้นขาด้านนอก ด้านหน้า และ ด้านหลัง ( สำหรับด้านใน โดยส่วนตัวแล้ว หมอจะเลือกให้ วิธีการดูดไขมันแบบปกติมากกว่า เพราะ บริเวณดังกล่าวถือว่าเป็น ตำแหน่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ )

2 ) ต้นแขน  ราวนม และ สะโพก

3 ) หน้าท้อง ถ้าเป็นบริเวณต่ำกว่า สะดือ Vaser ทำได้สบายมี่ปัญหา แต่โดยรวมแล้ว สำหรับ บริเวณนี้ แพทย์ต้องประเมินก่อนว่า คนไข้มีหน้าท้องย้วยด้วยหรือเปล่า หรือมีเฉพาะไขมัน เพราะบางครั้งคนไข้มีหน้าท้องที่ย้วย ซึ่งน่าจะเหมาะกับการผ่าตัดเก็บหนังหน้าท้องมากกว่า

สำหรับ บริเวณอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้นคงต้องประเมินและเลือกเป็นกรณีไป
 

บริเวณร่างกายส่วนที่เหมาะและไม่เหมาะกับการทำศัลยกรรมดูดไขมัน

 

คำถาม และคำตอบที่น่าสนใจเกี่ยวกับการดูดไขมันด้วย Vaser Liposelection

 

  • คำถาม :  Vaser  Liposelection มันดีอย่างไร  ทำไมมันถึงมีข้อดีแตกต่างกับวิธีการดูดไขมันแบบอื่นๆ ?
  • ตอบ     :  Vaser  Liposelection  เป็นการปล่อยคลื่น Ultrasound ไปกระแทก cell ไขมันให้แตกออกโดยมีตัวเหนียวนำคือ น้ำ ดังนั้นเมื่อเราใส่ เครื่องมือ  Probe ของ Vaser เข้าไปในร่างกายมันจะเลือก ทำลายเฉพาะ Cell ไขมันให้แตกตัวโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียงเลย ดังนั้นจึงไม่ค่อยพบการเขียวช้ำมากเท่ากับการดูดไขมันแบบเดิมๆๆ

การดูดไขมันด้วย Vaser Liposelection

  • คำถาม :   แล้วหลังดูดไปแล้ว สามารถกลับมาอ้วนใหม่ได้หรือเปล่า ผลจากดูดไขมันด้วย Vaser จะอยู่ถาวรหรือเปล่า ??
  • ตอบ     :  อันคงต้องอธิบายกันยาวถึงเรื่องของ Cell ไขมัน ( Fat cell )  ก่อนขึ้นต้องทราบก่อนว่า เมื่อเราเกิดมาจะมีจำนวนของ Fat cell เกือบเท่ากันทุกคน
  • คำถาม :  แล้วทำไมคนนี้ อ้วน คนนั้นผอม ทำไมคนนี้กินเท่าไรไม่อ้วน แต่เรากินนิดหน่อยก็อ้วนแล้ว  ?
  • ตอบ     :  จำนวน Fat cell นั้นสามารถเพิ่มมากขึ้นได้ ทั้งขนาดและจำนวนตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบหลังจากนั้น Fat cell จะเพิ่มเฉพาะขนาดแต่ไม่เพิ่มจำนวน  ดังนั้นถ้าใครเป็นเด็กอ้วนตอนเด็ก โอกาสที่จะอ้วนง่ายย่อมมีมากกว่า เพราะ จำนวน Fat cell มากกว่าและสามารถขยายตัวได้มากกว่า
  • คำถาม :  สามมารถดูดไขมันออกไปให้หมดเลยได้หรือไม่ เพราะถ้ามีไขมันอีกก็จะมีโอกาสกลับมาดูดไขมันได้อีก ซึ่งอาจจะดูเหมือนเป็นการเลี้ยงไข้
  • ตอบ     : เราไม่สามารถดูดไขมันได้หมด เพราะไขมันนั้นมีประโยชน์ ที่สำคัญก็คือ เก็บพลังงานสำรองให้ร่างกายของเราในยามที่จำเป็นต้องใช้ นอกจากนี้ ไขมันชั้นตื้น ( Superficial Layer of Fat ) นั้นมีความสำคัญมากในการปกป้องชั้นผิวหนังของเราไม่ให้กลายเป็นลูกคลื่น ดังนั้นในการดูดไขมัน เราจึงมักต้องเก็บไขมันชั้น Superficial Layer ไว้
  • คำถาม :  ดูดไขมันด้วย Vaser Liposelection แล้วสามารถกลับมาอ้วนใหม่ได้หรือเปล่า ?
  • ตอบ     :  Fat cell ที่เหลืออยู่ ยังสามารถขยายตัวได้ ถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง ไม่ออกกำลังกาย ก็สามารถกลับมาอ้วนเหมือนเดิมได้

ชั้นไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง

 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Vaser Liposelection

 

ศัลยกรรมความงามกับการสร้างโอกาสดีๆให้กับชีวิต

 
ศัลยกรรมความงามสร้างโอกาศดีให้กับชีวิต

 

ศัลยกรรมความงามช่วยสร้างโอกาสดีๆ ให้ชีวิตได้จริงหรือ?
 

‘หน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง’ เพื่อนๆ คงเคยได้ยินคำนี้มาจนชินหูแล้วใช่ไหมคะ คงปฎิเสธไม่ได้ค่ะว่านี่คือค่านิยมในการมองคนของสังคมไทยในปัจจุบัน ที่ตัดสินคนแบบ ‘First Impression’ เป็นอันดับแรก อย่างในกรณีของนักศึกษาจบใหม่ ที่กำลังจะมองหางานดีๆ เพื่อสร้างโอกาสดีๆ ให้กับชีวิต บางครั้งไม่ใช่ว่าหน้าตาไม่ดีแล้วจะไม่มีความสามารถ บางคนหน้าตีดี แต่ทำงานไม่เป็นก็มีเยอะแยะไป แต่หลายๆครั้งกลับกลายเป็นว่าบุคคลกลุ่มหลังมักจะได้โอกาสในการได้งานที่ดีมากกว่ากลุ่มแรก
 

นั่นเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้จำนวนตัวเลขของนักศึกษาที่ทำศัลยกรรมความงามเริ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าถ้าคิดกันเป็นเปอร์เซ็นต์ ใน 100% สำหรับผู้ที่เข้ามาขอคำปรึกษา และเข้ารับการทำศัลยกรรมตามโรงพยาบาลและคลีนิคที่มีชื่อเสียงต่างๆ จะเป็นนักศึกษาไปแล้วกว่า 50% นั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า การศัลยกรรมความงามเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นทั้งในกลุ่มของนักศึกษาเอง รวมถึงในกลุ่มของผู้ปกครองด้วยค่ะ เพราะความเชื่อที่ว่าการทำศัลยกรรมเสริมบุคลิกให้ดูดีขึ้นสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานในอนาคตนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกินเลยจริงๆ
 

ต้องยอมรับว่าสมัยนี้แรงกดดันจากการหางานทำในช่วงเวลาที่นักศึกษาแต่ละสถาบันจบการศึกษาพร้อมๆ กันทุกมหาวิทยาลัยมีอัตราที่เยอะกว่าอัตราของงานจะมารองรับมากพอสมควร หลายคนจึงตัดสินใจทำศัลยกรรมความงามเพื่อความได้เปรียบเวลาหางานทำ งานส่วนใหญ่ต้องผ่านการสอบสัมภาษณ์ การทำศัลยกรรมตกแต่ง เลยดูเหมือนจะมีความจำเป็นมากๆ เพราะใบหน้าที่สวยงาม นั่นหมายถึงบุคลิกที่ดี นอกจากจะทำให้มั่นใจขึ้นแล้ว ยังมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งคนอื่นๆ เพราะคงไม่มีใครหรอกค่ะ ที่รับเด็กจบใหม่จากการพูดคุย และผลการศึกษาเพียงอย่างเดียว บุคลิกภาพที่ดีจึงมีส่วนช่วยเหลือในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
 


 

ช่วงเวลาที่เป็นที่นิยมเรียกได้ว่าเป็น High Season ของการทำศัลยกรรมของกลุ่มนักศึกษา ต้องยกให้กับช่วงวันหยุดปิดภาคการศึกษา หรือช่วงหยุดฤดูร้อน (ที่ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ในปีนี้) นี่แหละค่ะ วงการศัลยกรรมในช่วงนี้จะดูคึกคักเป็นพิเศษ สาเหตุเป็นเพราะ ถ้าหากเข้ารับการผ่าตัดทำศัลยกรรมในช่วงเวลานี้ เพื่อนๆก็จะมีเวลาพักฟื้นกันได้อย่างเพียงพอ เปิดเทอมมามีหน้าตาที่สวยหล่อกันได้ทันที และในช่วงนี้นี่แหละ ที่บรรดาคลีนิกศัลยกรรมตกแต่งที่จะเริ่มประโคมข่าว ประชาสัมพันธ์ จัดโปรโมชั่นและให้ราคาพิเศษแก่นักศึกษากันอย่างเต็มที่
 

การศัลยกรรมตกแต่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มของนักศึกษา ก็คือการผ่าตัดตกแต่งเปลือกตาบน ทำตาสองชั้น เสริมจมูก หรือผ่าตัดกรามให้เล็กลงเพื่อให้หน้าเล็กเรียวขึ้น รวมถึงการดูดไขมันเพื่อให้รูปร่างดีสมส่วน การทำศัลยกรรมในทุกๆ โปรแกรมที่กล่าวถึง เห็นผลชัดเจนมากค่ะ แถมแผลที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดยังหายเร็วด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคลีนิคเสริมความงาม หรือโรงพยาบาลที่เลือกด้วยนะคะ เพราะมีราคาถูกแพงแตกต่างกันไป แต่ถึงยังไงถ้าตัดสินใจจะทำจริงๆ ก็ต้องเลือกกันหน่อยนะคะ ดูให้ที่นั่นมีความสะอาด ปลอดภัย และได้มาตราฐานจริงๆ ไม่อย่างนั้นจากที่เคยฝันว่าบุคลิกจะดีขึ้นอาจจะแย่ลงไปเลยก็ได้
 

ดังนั้นก่อนที่จะหมดช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ตอนนี้ก็ยังพอมีเวลานะคะ รีบตัดสินใจกันให้ดีๆ ถ้าใครตัดสินใจได้แล้วก็ลุยเลยค่ะ แต่สุดท้ายยังไงก็ตาม ถึงแม้การทำศัลยกรรมจะสามารถช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น ช่วยเปิดโอกาสในการหางาน ช่วยสร้างโอกาสดีๆ ให้เข้ามาในชีวิตได้ง่ายขึ้นมากแค่ไหน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้หน้าที่การงานของเพื่อนๆ สำเร็จ เจริญก้าวหน้าได้อย่าง100% นะคะ เพราะนอกจากเราต้องให้ความสำคัญกับบุคลิกและหน้าตาแล้ว เราต้องไม่ลืม ไม่อย่างนั้นถ้ามีโอกาสได้เข้าไปทำงานนั้นๆ จริงๆแล้วทำไม่ได้ก็แย่แน่ๆ เลยค่ะ